ข่าวกีฬา อาทิตย์ที่ 11 ก.ค. นี้ แชมป์ยูโร

ก่อนแข่งอิตาลี เป็นต่อตามเชิงและผลงานที่เข้ามาแบบหวือหวาดุดัน พลิกโฉมหน้าบอลอิตาเลียนจาก “คาเตนัชโช” มาเป็นบอลรุกที่น่าสะพรึงกลัว พร้อมเกมเพรสซิงแดนบนและแดนสองได้ดีมากๆ พวกเขาชนะรวดและยิงได้ทุกนัด จุดนี้ทำให้ผู้สันทัดกรณีมองว่าเหนือกว่าสเปน ที่แม้วิธีการเล่นดี บอลพาสซิงเกม ที่น่าดู แต่ตัวทำจบไม่เด็ดขาด ใช้โอกาสเปลือง
มาออกฟอร์มรอบแรกนัดสุดท้ายกับสโลวะเกีย กระนั้นสเปนก็ชนะคู่แข่งใน 90 นาทีเพียงแค่นัดเดียวคือนัดถล่มสโลวะเกียนั่นแหละ ที่เหลือเสมอ 2 และชนะรอบน้อคเอาต์ด้วยการต่อเวลา
ดังนั้นไม่แปลกผู้สันทัดกรณีมองว่าอิตาลี เหนือกว่า แฟนๆที่โหวตผ่านทางเวบไซด์ยูฟา ก็ให้อิตาลีชนะ 82% เหลือให้สเปนแค่ 12%
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น…
1 พาสซิงเกมของ สเปน
ผลคือสเปนใช้เวลา 15 นาที ทั้งเพรสและพาส จนคุมเกมและดึงฟุตบอลมาเข้าทางการเล่นของตัวเอง บีบให้อิตาลีตั้งรับ (เลยเหมือนยุคก่อน) แล้วรอสวนอย่างเดียว ทีมหลุยส์ เอ็นริเก้ ทำได้ดีมากกับการเล่นตามแทกติกตัวเอง เซร์คิโอ บุสเกต , โกเก้, เปดรี ชิงไหวชิงพริบ แย่งบอลจากอิตาลี ได้ต่อเนื่อง บีบไม่ให้แดนกลางอิตาลีที่ดูดรอปลงไปเกมนี้ได้เล่นบอล
ทั้งแวร์รัตติ, จอร์จินโญ่ และบาเรลล่า เกมอิตาลี เป็นรองเพราะโดนบีบให้ตั้งรับและไม่ได้เล่นเกมที่ตัวเองถนัด
2 กระทิงไม่ดุ
วิธีการเล่นดีแล้ว…ดีเกินคาดกว่าที่ทุกคนคาดว่าไม่น่ารอดอิตาลี แต่พวกเขากลับเล่นได้มีเชิงที่ดีกว่า สุดท้ายเพียงเพราะ “จบไม่คม” กระทั่งจุดโทษยังยิงไม่ดี สเปนจึงต้องกลับไปตั้งหลักใหม่ในบอลโลกรอบคัดเลือก
3 อิตาลี “ดูเขี้ยวกว่า”
เอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขัน และบวกกับตัวรุกสเปนก็ “บอด” และ “ทื่อ” เกินกว่าที่จะปิดบัญชี อันนี้ต้องยอมรับสภาพ
แล้วพอยิงจุดโทษ กลายเป๋นนักเตะอิตาลีที่ไม่ได้ผ่านการยิงจุดโทษมาในทัวร์นาเม้นต์นี
กลับดู “นิ่ง” กว่า แม้ โลกาเตลลี ยิงพลาดไปก่อน
ตรงนี้เป็นจุดแข็งที่ยังคงเป็นอิตาลี ที่ในวันเล่นไม่ได้ดีเท่ากับฟอร์มที่ตัวเองเคยทำได้แต่พวกเขา “ไม่แพ้”
4 เปดรี “มีของ”
ผมบรรยายเกม บาร์ซ่าทีวีทาง ช่อง โมโน ทีวี ทั้งซีซั่น ไม่แปลกใจที่ เอ็นริเก้ให้โอกาสเปดรี เพราะกระทั่งทีมบาร์เซโลนา เขายังเล่นตัวจริง แซะ คูตินโญ่ ไปนั่งดูข้างสนามแทน แถมยังเล่นบอลทันกับ เลโอ เมสซี อีกต่างหาก การรับส่งบอลแม่น เสียบอลยาก ให้บอลได้เปรียบ วิ่งได้ทั้งวัน เขาถูกมองว่าเหมือน อีเนียสต้า ไปแล้ว